เข่อ อ้าย ไต้หวัน /Ke ai Taiwan/
ยังไม่อยากทำงาน เลยหาเรื่องไปไต้หวันสักครึ่งเดือน
ประสบการณ์ดีๆของคนพึ่งเรียนจบ..16 วัน 15 คืนในไต้หวัน เริ่มที่เมืองเกาสง เจียอี้ ไทจง ไทเป เจอทั้งร้อน หนาว ฝน และแผ่นดินไหว ภาษาจีน เข่อ อ้าย แปลว่า น่ารัก ..น่ารักจริงๆนะ ไต้หวันนิสอ่ะ >///<
ไต้หวัน สกู๊ตเตอร์ เป็นของคู่กัน |
หาเรื่องอะไรไปถึงไต้หวัน
เห็นประกาศในเพจของคณะ รับสมัครนักศึกษา 5 คนเข้าโครงการ Intelligent Life Creative Winter Program ที่ไต้หวัน ฟรีที่พัก อาหาร การเดินทางในประเทศ ซึ่งหมดเขตสมัครวันรุ่งขึ้น -0- ปั่นใบสมัครเลย เช้าก็รีบบึ่งไปมหาลัยส่งใบสมัคร อีเมลผลออกคืนนั้นเลยค่ะ ดีใจมาก "ได้ไปเที่ยวใต้หวันแล้ววุ้ย!" ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าต้องไปร่วมโครงการอะไรที่ไต้หวัน
วันรุ่งขึ้นมีอีเมลอีกฉบับส่งมาว่า จะมีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์เพื่อความโปร่งใส O_O กรรม มีสิทธิหลุดหรอเนี่ย!? คราวนี้กลับไปอ่านรายละเอียดของโครงการแบบจริงจัง Intelligent Life Creative Winter Program เป็นโครงการของมหาวิทยาลัย National Kaohsiung First University of Science and Technology บลาๆๆ ลองคิดคำถามคำตอบไว้ในหัว
ตอนสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์
อาจารย์โทรศัพท์มาบอกขอสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษนะ "ทำไมถึงเข้าร่วมโครงการนี้คะ?" คำถามเบสิคมากแต่จะตอบยังไงให้แตกต่าง โดนเด่น และไม่เฟค ..ในหัวคิด จะตอบอันไหนก่อนระหว่าง ความจริง กับ ความประดิษฐ์ เอาว่ะ ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย
แพรว: สนใจเพราะโครงการจัดที่ไต้หวัน อยากไปไต้หวันมากนานแล้ว (หึยย มันดูอยากเที่ยวมากไป กำลังจะแถต่อ.. ตู๊ด ตู๊ด สายหลุดค่ะ)
อาจารย์โทรกลับมาใหม่ด้วยเบอร์ใหม่ สงสัยอันนั้นเงินหมด 555 อาจารย์ทวนคำถามใหม่ ก็ตอบไปตามเดิม เพิ่มเติมคือความอยากพัฒนาสังคมให้ดีขึ้น อาจารย์บอก ขอบคุณและวางสายไป
ตระเตรียม ทำการบ้าน
พยายามทำความเข้าใจจุดประสงค์ของโครงการ และดูแนวทางของคำว่า Innovation, Design and Creative Thinking เพราะไม่อยากร่วมโครงการแบบเอ๋อๆตามสไตล์ โครงการเริ่ม 22-30 ม.ค. 60 ต้องจองตั๋วเครื่องบินเอง หวานเป็ดเลย อยู่เที่ยวต่อสักอาทิตย์ดีกว่า เปิดแผนที่และรีวิว มาร์คที่ที่อยากไปและเริ่มทำการจอง ครั้งนี้ทำการบ้านนานกว่าทุกทริป เพราะเน้นเที่ยวนอกไทเปด้วยมั้งเลยกังวล แผนคร่าวๆคือ โครงการอยู่เมืองทางใต้ จะเที่ยวเปลี่ยนเมืองขึ้นเหนือจนถึงไทเป (ถ้าแบกเป้เที่ยวนี่สนุกเลย)
หนีฮ่าว เมืองเกาสง

ซ้ายไปขวา แบม ขมิ้น แพรว แอเรียล แว่นแก้ว ลิลลี่ เซน ออสก้า
โครงการมหาลัยอยู่ทางตอนใต้ของไต้หวัน อากาศเย็นๆแต่ไม่หนาวเท่าไทเป วันที่ 22 ม.ค. ลงเครื่องมีนักศึกษาไต้หวัน 2 คนมารับ ช่วยเรื่องซื้อซิมการ์ดและบัตร Easy Card และพาขึ้นแท๊กซี่ไปส่งที่หอในของมหาลัย
ที่พัก
หอใน ฝั่งผู้หญิง เคอร์ฟิว 5 ทุ่มนาจา |
ห้องนอนมีห้องส้วมเหม็นๆในตัว แต่ตรงข้ามสนามบาส >.< |
นึกถึงหนังเรื่อง เด็กหอ |
มีที่ตากผ้าเป็นราวไม้ไผ่ อยู่ระเบียงด้านนอก |
เครื่องกรอกน้ำ เครื่องซักผ้า เครื่องปัดหมาด |
ภารกิจและกิจกรรมในโครงการ
รูปรวมแรก ตอนอธิการบดีมาเปิดงาน |
วันที่ 1 ของโครงการเริ่มต้นอย่างดุเดือด นักศึกษาเข้าร่วมโครงการจะต้องจับกลุ่มกัน คิดหรือจำลองสิ่งประดิษฐ์หรือผลิตภัณฑ์เพื่อแก้ปัญหาสังคม (มีหัวข้อกำหนดให้ Internet of All Things, Eco-environment Device, and Wearable Device for elder) จากที่ไม่รู้ว่ามาทำอะไรในโครงการนี้ ก็กลายเป็นเหงื่อตกเพราะไม่รู้ว่าจะทำยังไง
![]() |
ส่วนมากเป็นนักศึกษาคณะวิศวะ เทคโนโลยีไรงี้ |
ไม่กล้าเลือกใครก็เลยรอให้ถูกเลือก เกรซมาจากอินโด เลือกอาโม่ คนไต้หวัน เพราะคุยกันถูกคอและอาโม่ก็เชียวชาญเรื่องคอมๆ ได้อยู่ทีมกับ 2 คนนี้ และสมาชิกอีก 1 คนคือขมิ้น Grace said "because we think u r an active person and also creative. And of course u r sooo friendly. We dont want to have a boring team." ก่อนเริ่มงาน มองหน้าขมิ้นและบอกว่า จะตั้งใจทำมันให้ดีที่สุดนะ
ลองสิ่งใหม่ๆ
ในแล็ปมีเครื่องมืออุปกรณ์ให้ลองใช้เยอะมาก ได้เรียนรู้ Program Arduino สร้างไฟกระพริบ ไฟวิ่ง ไฟจราจร ไฟกลางคืน ได้ออกแบบลายพวงกุญแจโดยใช้ Laser Wood Cutting ตัด และ 3D Printing Pen เห็นแต่ในอินเทอร์เน็ตของจริงโคตรคูล!
ทำแหวนคิดตี้ไว้ไปขอผชไต้หวันแต่งงาน |
อาหารการกิน
Fast Food |
อาหารมีหลากหลายแบบสลับกันไป มื้อเช้าเป็นอาหารเบาๆ เช่นซาลาเปาและการแฟดำ มื้อเที่ยงและมื้อเย็นส่วนใหญ่จะเป็นข้าวกล่อง บางทีเสริฟพร้อมชานมไข่มุก แต่ละมื้ออิ่มมาก ในงานเลี้ยงต้อนรับและงานเลี้ยงอำลามีบุฟเฟ่ต์ที่ไม่ค่อยอร่อยเท่าไร สิ่งนึงที่ไม่ได้กินเลยคือ ผลไม้ (กินผักชดเชยรัวๆเพื่อสำไส้ใหญ่)
บางทีเราก็หลงรักสิ่งที่มันอันตราย //ก๊อปมา |
Field Trips
ปฏิบัติงานทั้งหมด 9 วันเต็มๆ ได้ออกนอกสถานที่ 2 วัน ครั้งแรกไป Fo Guang Shan Buddha Museum and The Pier-2 Art Center ได้มีเวลานั่งคุยยาวๆกับขมิ้น เราดีใจทุกครั้งที่โลกเหวี่ยงคนดีๆมาให้รู้จัก แบมและแว่นแก้วด้วย
ครั้งที่สองไป Maker Inn ทำ Sock Doll Making บุกต่างอำเภอ ทำนา-ทำขนมท้องถิ่นที่บ้านแสนสวยของคุณครู คุณครูเอาเพื่อนอีก 2 คนมาช่วยรับมือกับนักศึกษา
และกินข้าวเย็นที่ร้านอาหารยอดนิยมของอำเภอนั้น เจ้าของร้านสนิทกับครูเอาเหล้าบ๊วยมาเลี้ยงไม่อั้น ของฟรีนี่ชอบบบ
![]() |
น้ำบ๊วยไม่อร่อยเลย |
ออกไปข้างนอกกันปะมึง
อยู่มหาลัยแม่งทุกวัน หลังกลับมาจากแล็บไม่มีอะไรทำก็ไปนั่งคุยกันที่สนามบาส มหาลัยมันห่างตัวเมืองพอสมควร จะไปไหนถ้าไม่รถเมล์ก็แท็กซี่ เพื่อนไต้หวันพานั่งแท็กซี่ไป Eda Mall ไกลมาก สถานที่ที่มีทั้ง ห้าง สวนสนุก โรงแรม บลาๆ ได้ที่ใส่กระดาษทิชชู่คิดตี้กลับมาด้วยเพราะความหน้าด้านไปขอ เย็นวันนึงเพื่อนชวนนั่งรถเมล์ไปเดินเล่นในเมือง นั่นเป็น 2 ครั้งที่ได้ออกไปนอกมหาลัยตอนค่ำๆ
ความเฮียของบางคน
แทบทุกกลุ่มมีปัญหากับสิ่งที่จะสร้าง มีอยู่กลุุ่มนึงเปลี่ยนหัวข้อบ่อยมาก ขอความช่วยเหลือ คำปรึกษาจากเพื่อนหลายๆคน จนถึงวันจะพรีเซนต์กลุ่มนั้นก็ยังไม่ทำสไลด์ แต่ออกไปเที่ยวเล่นได้ เช้าวันพรีเซนต์กลุ่มนั้น ธีม ผลงาน และ สไลด์เป๊ะมาก มารู้ที่หลังว่า ไม่ได้คิดเองเอาผลของคนอื่นไปส่ง คือโทรไปขอลอกสไลด์+ไอเดียของเพื่อนที่ไทย หมดศรัทธาในตัวคนๆนั้นไปเลย ทำไปได้ไงวะ เพื่อนนี่ก็แปลกให้ลอกไปได้ไง กลุ่มนั้นได้ที่ 2 เพราะไอเดียที่ไปลอกมาแม่งเจ๋งจริง
ไม่รู้ว่ามีใครรู้เรื่องนี้บ้าง แต่ไม่เห็นมีใครทำอะไร ไม่รู้ว่าโครงการไม่ซีเรียสหรือว่าไง ไม่ใช่ว่าแพ้แล้วพาล แต่การเอาผลงานคนอื่นมาเป็นของตัวเองอย่างภูมิใจมันน่าเกียจ
ไม่รู้ว่ามีใครรู้เรื่องนี้บ้าง แต่ไม่เห็นมีใครทำอะไร ไม่รู้ว่าโครงการไม่ซีเรียสหรือว่าไง ไม่ใช่ว่าแพ้แล้วพาล แต่การเอาผลงานคนอื่นมาเป็นของตัวเองอย่างภูมิใจมันน่าเกียจ
ความพยายามไม่กล้ายเป็นศูนย์
![]() |
รู้จักplatformนี้จากคลาสที่ลัตเวีต มันสร้างความโดดเด่นให้1pg intro.มาก |
หลังจากคุยปรึกษากันอยู่นานมาก ในกลุ่มก็เลือกทำ Pin, wearable device for the elder to solve a problem of forgetfulness
นี่คือรูปแบบ Pin แรกที่ออกแบบ ประทับใจมาก ขมิ้นเป็นคนตัดต่อภาพ จริงๆเป็นหน้าที่อาโม่ แต่ดูแล้วงานไม่เดิน ขมิ้นเลยอาสาทำเอง ต้องการให้ Pin มีไมค์ ลำโพง และปุ่มกด ขมิ้นก็ตัดภาพลำโพงและไมค์จริงๆมาใส่เลย ซูมดูนี่เห็นชัดมาก 555555 นางตัดต่อด้วยโทรศัพท์มือถือนะเนี่ย นับถือความพยายาม มันออกมาดีมากจนสร้างเสียงหัวเราะ
จาก 8 กลุ่ม นักศึกษา 30-31 คน จับฉลากได้นำเสนอกลุ่มแรก โชคดีปะละ ประกาศรางวัลได้ที่ 3 นาจาาา รางวัล Excellent Maker ดีใจโคตรๆ กรรมการชมว่า กลุ่มนี้แคร์ความรู้สึกของผู้ใช้ Pin หรือ เข็มกลัดนี้มองเผินๆเป็นเครื่องประดับ แต่เป็น Pin ที่มีประโยชน์
จากการทำงานครั้งนี้ เลือกที่จะให้ทุกคนในกลุ่มได้โชว์ความสามารถ สังเกตว่าใครเด่นและถนัดอะไรและให้ทำ final present ตาม specialties ยอมใช้เวลาและความตั้งใจกับงานมากหน่อย เพราะอยากให้งานออกมาดี ไม่อยากให้เป็นเหมือนที่ YWC14 Camp มองว่า Communication เป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ Everyone has to understand what we are doing.
อีกเรื่องที่สำคัญก็คือ members มองหน้าขมิ้นแล้วรู้เลยว่านางจะสู้จนถึงที่สุด คืนก่อนพรีเซนต์ยอมไม่ออกไปในเมืองละนั่งทำสไลด์จนเที่ยงคืนกว่าเพราะอยากให้สไลด์เป็นธีมเดียวกัน ถ้าคนร่วมงานไม่เก่งแต่นิสัยดีก็แค่มีบางคนอาจทำงานหนักหน่อย แต่ถ้าร่วมงานกับคนเก่งแต่เหี้ย นี่ปวดกะบาลนะขรั่บ
นี่คือรูปแบบ Pin แรกที่ออกแบบ ประทับใจมาก ขมิ้นเป็นคนตัดต่อภาพ จริงๆเป็นหน้าที่อาโม่ แต่ดูแล้วงานไม่เดิน ขมิ้นเลยอาสาทำเอง ต้องการให้ Pin มีไมค์ ลำโพง และปุ่มกด ขมิ้นก็ตัดภาพลำโพงและไมค์จริงๆมาใส่เลย ซูมดูนี่เห็นชัดมาก 555555 นางตัดต่อด้วยโทรศัพท์มือถือนะเนี่ย นับถือความพยายาม มันออกมาดีมากจนสร้างเสียงหัวเราะ
จาก 8 กลุ่ม นักศึกษา 30-31 คน จับฉลากได้นำเสนอกลุ่มแรก โชคดีปะละ ประกาศรางวัลได้ที่ 3 นาจาาา รางวัล Excellent Maker ดีใจโคตรๆ กรรมการชมว่า กลุ่มนี้แคร์ความรู้สึกของผู้ใช้ Pin หรือ เข็มกลัดนี้มองเผินๆเป็นเครื่องประดับ แต่เป็น Pin ที่มีประโยชน์
จากการทำงานครั้งนี้ เลือกที่จะให้ทุกคนในกลุ่มได้โชว์ความสามารถ สังเกตว่าใครเด่นและถนัดอะไรและให้ทำ final present ตาม specialties ยอมใช้เวลาและความตั้งใจกับงานมากหน่อย เพราะอยากให้งานออกมาดี ไม่อยากให้เป็นเหมือนที่ YWC14 Camp มองว่า Communication เป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ Everyone has to understand what we are doing.
อีกเรื่องที่สำคัญก็คือ members มองหน้าขมิ้นแล้วรู้เลยว่านางจะสู้จนถึงที่สุด คืนก่อนพรีเซนต์ยอมไม่ออกไปในเมืองละนั่งทำสไลด์จนเที่ยงคืนกว่าเพราะอยากให้สไลด์เป็นธีมเดียวกัน ถ้าคนร่วมงานไม่เก่งแต่นิสัยดีก็แค่มีบางคนอาจทำงานหนักหน่อย แต่ถ้าร่วมงานกับคนเก่งแต่เหี้ย นี่ปวดกะบาลนะขรั่บ
ไฮไลท์
เกริ่นมาซะนาน พารากราฟนี้เป็นที่มาว่าทำไม ไต้หวันถึงเข่อ อ้าย ทุกวันตอนหัวค่ำที่ไปนั่งเล่นที่สนามบาส จะมีผู้ชายอย่างน้อย 3 กลุ่มมาซ้อมบาสจนถึงเกือบ 4 ทุ่ม หนุ่มๆก็มีหล่อไม่หล่อปะปนกันไป เพื่อนก็นั่งคุยกันว่าคนนี้คนนั้นดูดี ด้วยความเบื่อๆเลยหาเรื่องจีบผชไต้หวันตั้งแต่คืนแรก
เพื่อนแนะนำว่า ผชมัดจุกน่ารัก (เรียกสั้นๆว่า จุก ละกัน) ก็รอจนจุกยืดเส้นเสร็จ กำลังจะกลับบ้าน จึงขอให้แว่นแก้วซึ่งพูดจีนได้ สอนภาษาจีน 5 ประโยค "สวัสดี ฉันชื่อ... เป็นคนไทย น่ารักจัง(ทำมือมินิฮาร์ท) ขอไลน์หน่อย" จากนั้นก็เอาไปพูดกับจุก ..สำเร็จค่ะ ได้ไลน์จุกมา เขาให้เรียกตัวเองว่า Cheating. คืนนั้นก็ทักไปคุย เขาก็ไม่ได้คุยดีเท่าไร
คืนต่อมาถึงรู้ว่าเขามีแฟนแล้ว ตอนนั้นเฟลนิสๆ เลยไปขอไลน์หนุ่มตัวเล็กอีกคนนึง called Goso (เรียกว่า เตี้ย) ประโยคแรกที่ถามก่อนเลยคือ มีแฟนยัง พอเตี้ยบอกยังก็ใช้กลยุทธ์ 5 ประโยคเดิม ..สำเร็จค่ะ ทักไลน์ไปคุยกับเตี้ย ใช้ Google Translate คุยกับเตี้ยเพราะแม่งพิมจีนมา - -" เตีี้ยอยู่อีกอำเภอนึงเลยจะไม่ได้เจอกันอีก ก็เลยนัดเจอกับเตี้ยหลังจบโครงการ
ในคืนเดียวกัน จุกบอกว่าแต่เรายังเป็นเพื่อนกันได้ และนางก็คุยดีกว่าเดิมมากๆ เย็นวันหนึ่งเราเอาข้าวกล่องไปฝากจุก ไม่รู้ว่านางได้กินไหม แต่ส่งมาบอกว่าอร่อยมาก "I think .. I should buy you dinner." แต่ก็ไม่รู้จะได้เจอไหม เพราะนางมีแข่งบาสหลายวัน นางบอกถ้าแข่งชนะก็อดเจอ นี่ในใจคิดของให้แพ้เถอะ555 แต่พิมพ์ตอบนางไปว่า ขอให้ชนะนะ และแล้วโชคก็เข้าข้าง นางแข่งแพ้
คืนวันที่ 30 มกรา เตี้ยบอกจะพาไปดูหนัง ไปๆมาๆงานเลิกช้ามั้ง เลยเปลี่ยนไปบาร์ นั่ง MRT ไปเจอเตี้ย แล้วนั่งมอไซค์นางไปบาร์ นางเลือกบาร์ได้โอเคเลยนะ นั่งคุยนิดๆหน่อยๆ จัดไป 2 แก้ว ตอนจะจ่ายตังค์ นางก็ไม่ยอมให้จ่ายลูกเดียว นี่ฟังจีนไม่รู้เรื่อง แต่เตี้ยบอกไว้มันไปไทยแล้วค่อยเลี้ยง ประมาณ 5 ทุ่มก็นั่ง MRT กลับ
เช้าวันที่ 31 นัดเจอกับจุก ซ้อนมอไซค์นางฟินมาก ผชอะไรขนตาสวยมาก ตอนขี่มอไซค์นางถามว่าหนาวไหม ถ้าหนาวเอามือมาใส่กระเป๋าแจ็คเก็ตนางได้ (เราก็สงสัย กระเป๋าแจ็คเก็ตเราก็มี) ด้วยความเกรงใจแฟนนางเลยบอกไปว่า ไม่เป็นไร นางพาไปห้างกึ่งสวนสนุก คุยกันสักพัก ชอบอะไรเหมือนๆกันเลยอะ จากนั้นก็กินข้าวเที่ยง ต่อด้วยของหวาน นางขับมอไซค์ไปส่งที่สนามบินด้วย Super nice!
หลังกลับมาไทย ก็ยังคุยกับทั้ง 2 คน(แบบเพื่อน)อยู่ เพื่อนบอกผชไต้หวัน nice เทคแคร์ดี ท่าจะจริง จากที่แต่ก่อนที่ชอบแต่ Western ตอนนี้ East Asian(ไม่มี South) ก็ดีนะ! ให้คะแนนความเป็น foreigner +10 ไว้ก่อน
นี่พึ่งจบเรื่องในเกาสงไปเอง ไว้มีเวลาจะมาอัพเดทเมืองที่เหลือ ใน เข่อ อ้าย ไต้หวัน ภาค2 /Ke ai Taiwan Ep.2/
เพื่อนแนะนำว่า ผชมัดจุกน่ารัก (เรียกสั้นๆว่า จุก ละกัน) ก็รอจนจุกยืดเส้นเสร็จ กำลังจะกลับบ้าน จึงขอให้แว่นแก้วซึ่งพูดจีนได้ สอนภาษาจีน 5 ประโยค "สวัสดี ฉันชื่อ... เป็นคนไทย น่ารักจัง(ทำมือมินิฮาร์ท) ขอไลน์หน่อย" จากนั้นก็เอาไปพูดกับจุก ..สำเร็จค่ะ ได้ไลน์จุกมา เขาให้เรียกตัวเองว่า Cheating. คืนนั้นก็ทักไปคุย เขาก็ไม่ได้คุยดีเท่าไร
จุก |
ในคืนเดียวกัน จุกบอกว่าแต่เรายังเป็นเพื่อนกันได้ และนางก็คุยดีกว่าเดิมมากๆ เย็นวันหนึ่งเราเอาข้าวกล่องไปฝากจุก ไม่รู้ว่านางได้กินไหม แต่ส่งมาบอกว่าอร่อยมาก "I think .. I should buy you dinner." แต่ก็ไม่รู้จะได้เจอไหม เพราะนางมีแข่งบาสหลายวัน นางบอกถ้าแข่งชนะก็อดเจอ นี่ในใจคิดของให้แพ้เถอะ555 แต่พิมพ์ตอบนางไปว่า ขอให้ชนะนะ และแล้วโชคก็เข้าข้าง นางแข่งแพ้
เตี้ย |
เช้าวันที่ 31 นัดเจอกับจุก ซ้อนมอไซค์นางฟินมาก ผชอะไรขนตาสวยมาก ตอนขี่มอไซค์นางถามว่าหนาวไหม ถ้าหนาวเอามือมาใส่กระเป๋าแจ็คเก็ตนางได้ (เราก็สงสัย กระเป๋าแจ็คเก็ตเราก็มี) ด้วยความเกรงใจแฟนนางเลยบอกไปว่า ไม่เป็นไร นางพาไปห้างกึ่งสวนสนุก คุยกันสักพัก ชอบอะไรเหมือนๆกันเลยอะ จากนั้นก็กินข้าวเที่ยง ต่อด้วยของหวาน นางขับมอไซค์ไปส่งที่สนามบินด้วย Super nice!
ผู้ Supports อย่างเป็นทางการ ถ้าไม่มีพวกนางก็ไม่มี เข่อ อ้าย |
นี่พึ่งจบเรื่องในเกาสงไปเอง ไว้มีเวลาจะมาอัพเดทเมืองที่เหลือ ใน เข่อ อ้าย ไต้หวัน ภาค2 /Ke ai Taiwan Ep.2/
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น