Athens&Delphi ทริปนี้ฟรีมิตรภาพ

22-25/1/2559



สวัสดีค่ะ :) เราชื่อแพรว นักศึกษามหาลัยปี3 ตอนนี้มาแลกเปลี่ยนที่ประเทศลัตเวีย กลางเดือนมกราคม59 เราไปเที่ยว 2 เมืองในประเทศกรีซ (เอเธนส์และเดลฟี่) การเดินทางคนเดียวครั้งนี้ไหลลื่น แทบทุกอย่างเป็นไปตามแผน ส่วนสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เป็นแต่เรื่องดีๆ เราไม่ได้จะมารีวิวแต่อยากบันทึกความทรงจำดีๆไว้ในโพสต์นี้

ขออภัย ถ้ามีคำไม่สุภาพและการสะกดหรือใช้ภาษาไม่ถูกต้อง
ติชมได้นะคะ นี่เป็นบล็อคแรกของเรา และอาจเป็นบล็อคสุดท้าย ฮ่าๆๆ 


มีอะไรบ้างในโพสต์นี้...

จุดเริ่มต้นของทริป
ระยะเวลาการเดินทาง
ที่พัก
ค่าใช้จ่าย
สภาพอากาศ
ไปไหนมาบ้าง
ความประทับใจ
ข้อควรปรับปรุง


จุดเริ่มต้นของทริป

หลังสอบปลายภาคเสร็จก็ค่อนข้างว่าง และอากาศที่ริก้า(เมืองหลวงของลัตเวีย)ก็หนาวมาก เราอยากหนีหนาวและใช้เวลาช่วงปิดเทอมให้คุ้มค่าจึงหาที่เที่ยว เราก็กางแผนที่ดู หาประเทศที่อยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตรมากกว่าลัตเวีย ตัดประเทศที่สามารถเที่ยวติดต่อกันออกไป ถามความเห็นเพื่อนที่ชอบเที่ยว แล้วเราก็ได้ข้อสรุปว่า กรีซนี่แหละ! เรารีบจองตั๋วเครื่องบิน

จากนั้นก็หาเพื่อนร่วมทริป เราถามเพื่อนไม่ต่ำกว่า 5 คน บางคนวางแผนเที่ยวที่อื่น บางคนสอบไม่เสร็จ บางคนเรื่องมาก ..เราขี้เกียจถาม เลยตัดสินใจไปคนเดียวเลย (เราคิดว่าเที่ยวแบบมีเพื่อนมันดี ปลอดภัยและสนุก แต่ถ้านิสัยเพื่อนไม่เข้ากับเรา ไปคนเดียวสบายใจกว่า)


ระยะเวลาการเดินทาง

ไม่มีบินตรงจากริก้าไปเอเธนส์ ตัวเลือกวันเวลาราคาก็มีไม่มาก เราจองตั๋วเครื่องบินก่อนจะหาข้อมูลที่เทียว เครื่องเราออก 6 โมงเช้าทั้งขาไปและขากลับ เราไปแค่4วัน ตัดวันเดินทางออกก็เหลือ3 เราจึงไม่เลือกไปเกาะต่างๆของกรีซเพราะคิดว่า ไปกับเพื่อนน่าจะสนุกกว่า เอเธนส์แน่นอนต้องไป อีกเมืองเราเลือกเดลฟี่

มีเพื่อนผู้ใจดีนั่งแท็กซี่ตอนตี4ไปส่งเราที่สนามบิน เราเดินทางโดยสายการบินLufthansa จากริก้า เปลี่ยนเครื่องที่แฟรงเฟิร์ต ถึงกรีซบ่าย1กว่าๆ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5-6 ชั่วโมง) จากนั้นนั่งรถไฟใต้ดินไปแถวที่พัก ประมาณ 50 นาที


ที่พัก

เราหาที่พักจาก booking.com เป็นโฮสเทลบริเวณจัตุรัส Monastiraki ใกล้ที่เที่ยวสำคัญๆมาก พนักงานเป็นกันเอง สามารถให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ได้ เราแชร์ห้องกับผู้หญิง 4 คน ห้องพักไม่ใหญ่ พอมีกระเป๋าก็แอบแคบ สะอาด มีเตียงสองชั้น 2 เตียง มีห้องน้ำในตัว

คืนแรกมีรูมเมทเป็นคนเกาหลี คืนสองมี 2 สาวจากอาร์เจนติน่ามาเพิ่ม เราก็พยายามหาเพื่อนใหม่ ชวนคนเกาหลีคุย แรกๆนางก็ตอบนิดหน่อย เราก็ถามใหญ่เลยเผื่อจะมีเพื่อนนั่งชิว ไปๆมาๆนางยิ้มและไม่ตอบ เราก็คิดว่านางไม่ชอบเรา เราเลยเลิกคุย ที่ไหนได้นางพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ ส่วนคนอาร์เจนติน่าพักแค่คืนเดียว นางพึ่งไปแลกเปลี่ยนที่สเปน ตอนนี้กำลังเดินทางเที่ยวเรื่อยๆ

ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ

ค่าเครื่อง 8000 บาท
ค่าที่พัก 3 คืน 1530 บาท
ค่าเดินทาง(รถไฟใต้ดิน รถบัส) 400 บาท
ค่าทัวร์1วันที่เดลฟี่ 2000 บาท(ไม่รวมค่าเข้าพิพิธภัณฑ์และค่าอาหารกลางวัน)
ค่ากิน 520 บาท
อื่นๆ 40 บาท

ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ ฟรี(เกือบ)หมดเพราะเรามีบัตร ISIC ซึ่งเป็นบัตร International Student ที่กรีซสำหรับนักเรียนนักศึกษายุโรปค่าเข้าชมสถานที่ฟรี เช่น วิหารพาเธนอน ด้วยความที่เราเป็นเอเชีย เวลาเราโชว์บัตร พนักงานก็จะถามว่า ลัตเวียนี่อยู่เอเชียใช่ไหม ฮ่าๆๆ เราประหยัดไปเยอะเลย

อาหารการกินเราเน้นประหยัด มื้อเช้าและกลางวันเราซื้อของกินง่ายๆในซุปเปอร์มาร์เก็ต มื้อเย็นก็กินอาหารกรีก

การเดินทาง ที่ไหนใกล้ๆเราก็เดินเอา ประหยัดตังค์ได้ออกกำลังกายแถมซึบซับบรรยากาศ ถ้าต้องใช้รถสาธารณะเราก็บวกลบคูณหารจำนวนรอบกับราคาและก็เลือกแบบราคานักเรียน


สภาพอากาศ

ช่วงที่ไปอากาศเย็นๆ 7 ถึง 1 องศาเซลเซียส มีแดดพอให้ได้ใส่แว่นตากันแดดคูลๆ มีฝนบ้างนิดหน่อย เราตั้งใจจะหนีหนาวก่อนไปก็เช็คแล้วว่าอากาศกำลังดี แต่ที่ไหนได้ช่วงที่ไปอุณหภูมิที่กรีซดันลงซะงั้น พอเรากลับอากาศอุ่นขึ้น -_-  


ไปไหนมา เจออะไรบ้าง


วันแรก กว่าจะถึงโฮสเทล จัดข้าวของก็ 5 โมงเย็น (โบราณสถานปิดตั้งแต่บ่าย3) เย็นๆเราเลยไปเก็บย่านช้อปปิ้งให้หมด Plaka, Monastiraki Square, Syntagma Square, Omonoia Square ร้านค้าเยอะแยะมากมายหลากหลายคุณภาพ เราได้แต่เดินดู ไม่มีตังค์ซื้อและเนื้อที่กระเป๋าก็ไม่พอ มื้อเย็นเรากิน Mousakka 


หุ่นจะเยอะไปไหน

วันที่สอง ไปสถานที่ขึ้นชื่อของเอเธนส์  Acropolis, Parthenon, Panathenaic Stadium, Temple of Olympian Zeus, Erechtheion, National Garden, Theatre of Dionysus, Arch of Hadrian, Choragic Monument of Lysicrates ทุกที่มันอยู่ไม่ไกลจากกันมากเราก็เดินไปเรื่อยๆ ประมาณบ่าย3 เรานั่งรถไฟใต้ดินเพื่อไป Athens Olympic Stadium












คนขอทานนี่เพียบ ยิ่งในรถไฟใต้ดินนะ แทบทุกสถานีที่จอดจะมีขอทานมาขายของขอเงิน หรือ ไม่ก็คนพูดเสียงดังคนเดียว
ถ้ามีตำแหน่งขอทานดีเด่น ก็จะยกให้คนนี้แหละ นอนยังถือขัน

จากนั้นนั่งกลับมา ไปเดินแถวๆ University of Athens, National Library of Greece, Kolonaki, รัฐสภา เราเดินผ่านรัฐสภาทุกเย็นเลยได้เห็นการเปลี่ยนเวรยามแบบมืดๆตลอด

เราถามพนังงานโฮสเทลสำหรับร้านอาหารกรีกมาแล้ว เย็นนั้นเรากินเคบับหมู พึ่งเข้าใจคำว่า เคบับอร่อยมันเป็นยังไง

วันที่สาม (ก่อนมา ด้วยความขี้เกียจหาข้อมูลเที่ยวนอกเอเธนส์ เราเลยซื้อทัวร์ของบริษัท Astoria tour ไปเมืองเดลฟี่ 1 วัน มีราคาพิเศษสำหรับนักเรียนอีกแล้ว)
รถบัสของบริษัททัวร์มารับเราที่หน้าโฮสเทลตั้งแต่ 7 โมงครึ่ง แล้วก็แวะรับลูกทัวร์คนอื่นๆ ตลอดทางมีไกด์อธิบายและเล่าประวัติศาสตร์ แต่เราหลับยาว ตื่นอีกทีตอน 10 โมง จุดพักแรกเป็นร้านกาแฟ

 จากนั้นก็ไปชมโบราณสถานและโบราณวัตถุ ต่อด้วยพิพิธภัณฑ์ (Delphi Archaeological Museum)
สะดือโลก







บ่าย2ก็ไปกินข้าวเที่ยง แต่ทัวร์ที่เราจองไม่รวมอาหารกลางวันเพราะเตรียมเสบียงไป ไกด์เสนอตัวเลือกมา เราเลือกที่จะเดินเล่นรอระหว่างที่คนอื่นไปกินข้าว


หลังจากจัดการมื้อเที่ยงและต่อด้วยอาหารว่างกรีกเบาๆ เราก็เดินเล่นและถ่ายรูป จนไปเจอคนเอเชียเดินถ่ายรูปคนเดียว เราเลยทักทายและชวนคุย ได้ความมาว่า เป็นชายเกาหลีมาเที่ยวกรีซคนเดียว เรียนป.โทด้านการอนุรักษ์โบราณสถานและโบราณวัตถุ เราอึ้งกับคณะของโอปป้า จนต้องถามว่าป.ตรีเรียนไร โอปป้าตอบเรียนเกี่ยวกับหิน เหตุผลที่มาเที่ยวคนเดียวของโอปป้าคือสบายใจกว่าและไม่ชอบการสนทนา (เราคิดว่าโอปป้าหมายถึงเป็นคนพูดไม่เก่ง) เราเลยเลิกถามต่อ ฮ่าๆๆ  

ระหว่างเดินทางกลับเอเธนส์ จุดพักสุดท้ายคือหมู่บ้าน Archova จุดเด่นคือบ้านหลังเล็กๆที่ทุกหลังต้องมีหลังคาสีแดง รถทัวร์จอดให้ชมหมู่บ้านและซื้อของที่ระลึก เขาว่ากันว่ามะกอกที่กรีซมีชื่อ เราเลยซื้อสบู่มะกอกมา (มาเพื่อ?)

ทัวร์เดลฟี่เราได้เพื่อนใหม่ 1 คนจากอินเดียชื่อ Sinu เราเห็นเขาเดินคนเดียวด้วยความมีน้ำใจ เราเลยถามว่าถ่ายรูปให้เปล่า จากนั้นก็เลยคุยกัน ได้ความว่า เขาทำงานเกี่ยวกับซอร์ฟแวร์ให้ธนาคารหนึ่งในลอนดอน อยู่อังกฤษได้ 8 ปีและอยู่มาแล้วหลายประเทศ เขามากรีซเพราะอยากเจอแสงแดด มาแค่3-4วัน Sinuเล่าให้ฟังว่าคืนแรกที่เขามาถึงเอเธนส์ เขาโดนลุงแก่ๆหลอกให้ไปบาร์ที่แพงมาก เหมือนทุกอย่างถูกแพลนไว้แล้ว

ระหว่างที่เราเดินๆอยู่ เราได้ยินเสียงเหมือนรถชน เราก็วิ่งไปเนียนๆกับกรีกมุง รถมอเตอร์ไซค์นอนอยู่ใต้ท้องรถเก๋ง โชคดีไม่มีใครเป็นอะไร

วันที่สี่ เราตื่นตีสามเพื่อเดินไปขึ้นรถบัสไปสนามบิน ถึงสนามบินก็งีบนิดหน่อยระหว่างรอเครื่อง ถึงริก้าประมาณบ่ายโมงครึ่ง มีเพื่อนผู้ใจดีมารับที่สนามบิน
ตอนตีสาม ระหว่างเดินไปขึ้นรถบัส

ความประทับใจ

ตอนที่เราไปถึงย่าน city center ของเอเธนส์เราก็ชอบเลย วิวตรงหน้าเป็นร้านค้า ร้านอาหารและผู้คน มีคนหลายชนชาติปะปนกัน มันวุ่นวาย มอเตอร์ไซค์ขับไปมา เสียงแตรดังต่อเนื่อง หนึ่งเลนของถนนกลายเป็นที่จอดรถยนต์ แต่พอมองไกลออกไปจะเห็นภูเขา บ้านบนเขาและ Acropolis ร้านไอติมและโยเกิร์ตเยอะมาก 



รถเก็บขยะน่ารักๆสำหรับในตัวเมือง

วันแรกเราหลงขณะเดินหาร้านอาหาร อยู่ก็มีลุงเดินเข้ามาถามว่าหลงหรอ ลุงบอกว่า "เดี๋ยวลุงพาไปร้านนึง เชื่อลุงรึเปล่า" เราก็แบบเฮ้ยทำไมลุงพูดงี้ แต่ก็เชื่อ แล้วลุงก็พาเดินไปยังร้านอาหารที่ลุงคิดว่าอร่อยและไม่แพง ลุงแนะนำMousakka  เราก็รีบถามราคากลัวแพง ลุงอวยพรเราสารพัดแล้วก็เดินจากไป ตอนกำลังจะจ่ายตังค์ พนังงานบอกไม่รับบัตรเครดิต เราก็โอเคกำลังจะหยิบเงินสด คุณอาโต๊ะข้างๆบอกว่า "เดี๋ยวจ่ายให้ ไปเถอะ" เรานี่งงได้แต่บอกไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณ คุณอาก็จะจ่ายให้ได้แถมบอกอีกว่า"เดี๋ยวคุณค่อยจ่ายครั้งหน้า" เราเดินออกมาจากร้านแบบงงๆ ในใจคิดกำลังอยู่ในรายการหรือโดนหลอกว่ะเนี่ย

ปกติเราไม่เคยซื้อทัวร์ เลยไม่มีข้อเปรียบเทียบ แต่เราประทับใจทัวร์1วันที่เดลฟี่นะ เดลฟี่สวยมากให้ความรู้สึกที่แตกต่างกับเอเธนส์ ธรรมชาตินี่ล้อมรอบตัวเลย


มีรับส่งที่โรงแรม ตอบอีเมลเร็วมาก กลุ่มทัวร์ไม่ใหญ่มาก ไกด์เป็นกันเองและมืออาชีพ สถานที่ที่พาไปก็น่าสนใจ เราได้ข้อมูลเพียบจากคำอธิบายของไกด์

หลังทัวร์เสร็จสิ้น เรากับSinuเพื่อนชาวอินเดียก็ไปเดินในเมือง เราสั่งโยเกิร์ตกินเพราะเขาว่ากันว่าโยเกิร์ตที่กรีซไม่เลว Sinuบอกว่าเดี๋ยวจ่ายให้แทนคำขอบคุณที่มาเป็นเพื่อน

ข้างบนโยเกิร์ตเป็นของหวานกรีก อร่อยสุด

Sinuพึ่งมาถึงเอเธนส์ยังไม่ได้ชมเมืองไรมาก เราเลยพาไปชมเปลี่ยนเวรยาม จากนั้นเราสองคนก็เดินหาร้านอาหาร เราบอกว่าเราไม่กินแพงนะ Sinuบอกสบายอยากกินไรบอกเดี๋ยวเลี้ยงแทนคำขอบคุณที่พาชมเมือง เราจัดไปGyroหมู อร่อยเหาะ! Sinuรู้ว่าเราต้องเดินไปขึ้นรถบัสคนเดียวตอนตีสาม เขาเลยเสนอจะนั่งแท็กซี่มาเป็นเพื่อน แต่เรายื่นยันจะไปเอง


ข้อควรปรับปรุง

ไม่ได้จองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้าเพราะฉะนั้นค่าเครื่องเลยค่อนข้างแพง
ระยะเวลาเที่ยวน้อยมาก เพราะไม่ได้หาข้อมูลก่อนจองตั๋วว่าควรอยู่เที่ยวกี่วัน มีที่ไหนน่าไปบ้าง
เครื่องออกเช้ามาก เลยต้องไปสนามบินตั้งแต่ตี3-4
กะเวลาผิด ทำให้ต้องกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปขึ้นรถบัส
ไม่ได้ขออนุญาตพ่อแม่ก่อนไป
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ :)

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

บทสัมภาษณ์ "เฮียกวง99" ผู้จัดการคนสำคัญ ร้านแทรกเตอร์ โคราช

British and American Studies and Going on exchange, Latvia